(29 เม.ย. 2565) นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 ที่ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565) ได้สิ้นสุดแล้ว กรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม (พ.ค.) 2565 ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
– วงเงินซื้อสินค้า 200/300 บาทต่อเดือน
– ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (เม.ย. – มิ.ย. 65)
– ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
ทุกวันที่ 15 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่ ต.ค. 64 – ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. – ก.ย. 65)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
– เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า “ผู้มีสิทธิสามารถติดตามข่าวสารของกรมบัญชีกลางได้จากช่องทางต่าง ๆ ของกรมบัญชีกลาง เช่น Facebook Youtube Instagram Twitter และ CGD Application หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 และ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ”
ส่องโปร ‘EMS ลดทุกวัน’ ไปรษณีย์ไทย วันอาทิตย์ค่าส่งเริ่มต้น 19 บาท
ไปรษณีย์ไทยพร้อมเดินหน้าท้าร้อนปล่อยโปรคุ้ม “EMS ลดทุกวัน” ให้ผู้ใช้บริการส่งด่วน EMS ได้เซฟค่าส่งกันต่อเนื่องทุกจันทร์ถึงอาทิตย์ ส่งได้ทั้งซองและกล่อง ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของผู้ใช้บริการให้ค่าส่งเป็นเรื่องเบาสบายที่สุดในช่วงที่ภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย จันทร์ถึงเสาร์เริ่มต้น 25 บาท
พิเศษ วันอาทิตย์ ราคาเริ่มต้น 19 บาท ลดสูงสุกกว่า 50% สามารถใช้บริการได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ไทย และร้านไปรษณีย์อนุญาตทุกแห่งทั่วประเทศ เริ่ม 1 พ.ค. ถึง 30 มิ.ย. 2565
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้าช่วยแบ่งเบาต้นทุนค่าจัดส่งสิ่งของให้แก่ผู้ใช้บริการจากเดิมราคาพิเศษเฉพาะวันอาทิตย์ SUNDAY เปย์ 19 บาท ขยายการให้ส่วนลดเพิ่มเป็น “EMS ลดทุกวัน” Every Day ให้ผู้ใช้บริการส่งสุขสุดคุ้มทุกปลายทาง ได้ทุกวัน
ควบคู่กับการตอกย้ำคุณภาพมาตรฐานการจัดส่งด่วนทุกวันไม่มีวันหยุด พร้อมความเป็นมืออาชีพด้านการขนส่ง ดูแลสิ่งของอย่างดีตลอดเส้นทาง ให้สิ่งของถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยทุกชิ้น เพื่อรองรับปริมาณการส่งสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้น ตามพฤติกรรมการช้อปสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าส่งวันไหน หรือจำนวนชิ้นงานจะมากแค่ไหน ผู้ใช้บริการจะได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ยอดเยี่ยม และประทับใจในบริการทุกครั้ง
ทั้งนี้ โปรคุ้ม “EMS ลดทุกวัน” สงวนสิทธิ์ให้กับผู้ใช้บริการที่ชำระเป็นเงินสด QR Payment บัตรเครดิต เท่านั้น สามารถใช้ได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านไปรษณีย์ไทย และร้านไปรษณีย์อนุญาตทุกแห่งทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 มิ.ย. 2565 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
